วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

"ลัดดาแลนด์" หนังผีที่ไม่ได้มีดีแค่ความสยอง


บทวิจารณ์ภาพยนตร์ : ลัดดาแลนด์

บ้านคือวิมานของเรา จริงหรือ?




เนื้อเรื่อง
(เครดิตเนื้อเรื่องนำมาจากเว็บไซต์ของจีทีเอช)

ธีร์ (ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา) ก็เช่นกัน เขาก็เหมือนหนุ่มสาวอีกนับแสนนับล้านคนในกรุงเทพฯ ที่ไม่มีปัญญาซื้อบ้าน ลำพังเงินเดือนพนักงานออฟฟิศธรรมดาๆของธีร์ การเก็บหอมรอมริบหาเงินมาดาวน์บ้านเป็นภาระสาหัสเกินไป ทุกวันนี้ธีร์เช่าอพาร์ตเมนต์เป็นที่อยู่ มันเป็นปมด้อยที่ทำให้เขารู้สึกผิดต่อทุกคนในครอบครัว ป่าน (ป๊อก-ปิยธิดา วรมุสิก) ภรรยาที่แม่ยาย (เดือนเต็ม สาลิตุลย์) พร่ำกรอกหูอยู่ตลอดเวลาว่าเขากระจอกเกินไปสำหรับเธอ แนน (ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์) ลูกสาววัยรุ่นที่ธีร์ไม่เคยได้อยู่ร่วมชายคาเพราะส่งไปให้แม่ยายช่วยเลี้ยงดู นัท (แก๊บ-อธิพิชญ์ ชุติวัฒน์ขจรชัย) ลูกชายวัย 5 ขวบที่ยังเดียงสาพอจะเห็นพ่ออย่างเขาเป็นฮีโร่

ในวัยย่าง 40 ธีร์คิดว่าตัวเองคงเป็นสามี เป็นพ่อ เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ไม่เอาไหนหากไม่สามารถมีบ้านสักหลังไว้เป็นหลักประกันความสุขของ "ครอบครัว"

โอกาสมาถึงเมื่อธีร์ได้รับข้อเสนอ เป็นตำแหน่งผู้ช่วยฝ่ายการตลาดที่บริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยเงินเดือนที่มากขึ้นและค่าที่ดินที่ถูกลง บ้านเดี่ยวหลังใหญ่แบบในหนังโฆษณาก็ไม่ใช่ฝันที่เกินเอื้อมอีกต่อไป ธีร์ตัดสินใจทิ้งชีวิตเก่าเพื่อไปตั้งรกรากในบ้านที่เขาเฟ้นแล้วเฟ้นอีกว่าดีที่สุดโดยไม่ฟังคำทัดทานของทั้งเมียและลูก

ธีร์เชื่อว่าครอบครัวของเขาจะมีความสุขมากกว่าที่ หมู่บ้านลัดดาแลนด์

บนโต๊ะอาหารในบ้านหลังใหม่ที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่น ธีร์ยิ้มอย่างภาคภูมิ ที่ในที่สุดครอบครัวของเขาก็ได้มาอยู่กันพร้อมหน้า โดยไม่รู้ว่าในค่ำคืนเดียวกันนั้นเอง มีเด็กรับใช้ชาวพม่าของบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านถูกฆาตกรรมอย่างทารุณ คนร้ายสาดเธอด้วยน้ำกรดจนใบหน้าแหลกเหลวแล้วทุบตีเธอจนตายก่อนนำศพไปยัดไว้ในตู้เย็น...

หมู่บ้านไหนๆก็มีคนตายแต่ไม่ใช่ทุกหมู่บ้านจะได้ประสบกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในลัดดาแลนด์

บทความนี้เป็นการวิจารณ์โดยใช้แนวคิดการวิเคราะห์กระบวนการวิจารณ์ 5 ขั้น 

การศึกษาข้อมูล (Information)
ลัดดาแลนด์ เป็นภาพยนตร์ไทยแนวสยองขวัญเรื่องที่ 8 จากค่าย GTH หลังจากประสบความสำเร็จและเกิดกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากเรื่อง ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ทำให้กระแสหนังผีในบ้านเราเริ่มคึกคักขึ้นมาอีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง เด็กหอ ผู้กำกับฯ จาก แฟนฉัน ที่ฉีกแนวมาเป็นหนังผี และยังคงเล่นกับการหวนหาอดีตอย่างเคย แถมยังดึง เน็ก ชาลี ไตรรัตน์ จากแฟนฉันมาเล่นด้วย เรื่องแฝด มีการหักมุมอย่างน่าสนใจ เรื่องสี่แพร่ง มีแนวที่แตกต่างออกไปคือ เป็นหนังแบบ 4-in-1 โดยหนังพยายามจะเล่นกับเลข 4 และพยายามเชื่อมโยงแต่ละเรื่องในทางใดทางหนึ่ง จากกระแสตอบรับที่ดีจึงตามมาด้วย ห้าแพร่ง และยังมีอีกหลายเรื่องอย่าง บอดี้ ศพ #19 และ โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต ที่ให้อารมณ์สยองขวัญสุดๆ

การวิเคราะห์และการตีความ (Analysis & Interpretation)
“ลัดดาแลนด์” ก็มีโครงสร้างเหมือนกับหนังผีทั่วๆไป แต่เนื้อหาของหนังมีอะไรมากกว่านั้น กล่าวคือ หนังเรื่องนี้แสดงออกถึงชีวิตการใช้ครอบครัวจริงๆ ที่ต้องมีความสำเร็จและล้มเหลว สังเกตได้จากตัวละครของก้อง-สหรัถที่ต้องแบกภาระทั้งงานและครอบครัว ในขณะที่ต้องทำในสิ่งที่กล่าวมา ยังต้องเผชิญกับปัญหาอื่นๆที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านอีก 


หนังพยายามเล่าถึงเรื่องราวความเป็นจริงของคนกลุ่มใหญ่ คนที่อยู่หมู่บ้านจัดสรร, ความไม่ปลอดภัยในหมู่บ้าน, ปฏิสัมพันธ์ของเพื่อนบ้าน, คดีฆาตกรรมในหมู่บ้านที่อ่านเจอตามหน้าหนังสือพิมพ์บ่อยๆ ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ปัญหาทางด้านครอบครัวที่เริ่มต้นอย่างไม่พร้อม แต่ก็ยังพยายามที่จะประคับประคองให้รอดไปได้ ซึ่งน่าจะตรงกับชีวิตของใครหลายคน ที่ต้องใช้ชีวิตต่อสู้กับสภาพเศรษฐกิจ สังคม หน้าที่การงาน ความรับผิดชอบ ความเป็นผู้นำ หัวหน้าครอบครัว การได้ความยอมรับจากสมาชิกในบ้าน หนังเรื่องนี้น่าจะทำให้คนที่อยู่ในวัยทำงานและเพิ่งเริ่มสร้างครอบครัว ดูแล้วรู้สึกตรงกับตัวเองและอินไปตามบทบ้าง ว่าชีวิตจริงมันมีความซับซ้อนจนน่ากลัว แต่เราก็อยู่กับมันได้

การบรรยาย (Description)
หนังเริ่มด้วยเรื่องราวของครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่งซึ่งย้ายไปอยู่เชียงใหม่ในหมู่บ้านจัดสรรที่มีชื่อว่า ลัดดาแลนด์และดูเหมือนว่าชีวิตจะราบรื่น อยู่กันอย่างสุขสบาย เพราะผู้เป็นพ่อทำงานที่มีรายได้ดีพอที่จะผ่อนบ้านของตัวเองได้ ถ้าหากดูเผินๆ แล้ว ครอบครัวนี้ก็ออกจะเพียบพร้อมทั้งบ้าน รถ และความมั่นคงในหน้าที่การงาน แต่จริงๆ แล้วความสุขของสมาชิกในบ้านกลับไม่ใช่อย่างที่เห็น เมื่อลูกสาวไม่ค่อยลงรอยกับผู้เป็นพ่อสักเท่าไหร่ เพราะเมื่อลูกสาวคนโตเกิดมา ก็ต้องเอาไปฝากให้ยายเลี้ยงเพื่อลดภาระปากท้อง จนลูกกลายเป็นเด็กที่แอนตี้ครอบครัวตัวเอง และพวกเขายังมีเพื่อนบ้านเป็นคนที่มีนิสัยแปลกประหลาด ชอบทำร้ายตบตีลูกเมียตัวเองเป็นประจำ

การบรรยายเนื้อเรื่องกับการวิเคราะห์ (Description & Analysis)
ไม่นานหนังก็ได้เผยให้เห็นถึงปมปัญหาครอบครัวที่สร้างเรื่องราวความขัดแย้งให้เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อวันหนึ่งก็เกิดเหตุร้ายขึ้นในหมู่บ้าน แรงงานพม่าโดนฆ่าตายหมกศพในตู้เย็น ทำให้คนในหมู่บ้านถึงกับหวาดหวั่นขวัญผวา โดนผีหลอกกันถ้วนหน้า หลังจากเกิดเหตุผีร้ายอาละวาด เรื่องราวก็ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก เมื่อความสัมพันธ์ภายในครอบครัวร้าวฉานลงเรื่อยๆ ผู้เป็นพ่อตกงาน, ถูกลูกสาวเกลียด, หวาดระแวงว่าภรรยาจะไปมีชู้

และราวกับว่าปมปัญหาของครอบครัวยังไม่พอแค่นี้ เหตุการณ์เลวร้ายยังคงทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเพื่อนบ้านของพวกเขาฆ่าตัวตายจากภาวะหนี้สิน และผีคนข้างบ้าน ทั้งผีพ่อ ผีแม่ ผีลูก ผีคุณย่าต่างก็ตามมาหลอกหลอนครอบครัวของธีร์ จนฝ่ายภรรยาเริ่มมีความกลัวและหวาดผวา จึงอยากจะย้ายกลับไปอยู่กรุงเทพ แต่ทางสามีก็ไม่ยอม เพราะบ้านยังผ่อนไม่หมด แม่ยายก็ไม่ยอมรับ ด้วยความเครียดหลายอย่างที่ประดังเข้ามาไม่หยุด ก็ยิ่งนำพาปัญหามาสู่บ้านหลังนี้ 

การวิเคราะห์และประเมินคุณค่า (Analysis & Evaluation)
การเกริ่นนำของหนังเรื่องนี้ทำได้ดีมาก หนังนำเสนอความน่าอยู่ของหมู่บ้าน ทำให้เราผู้ชมเห็นว่า หมู่บ้านนี้อบอวลและเต็มไปด้วยความสุข แต่พอเกิดเหตุการณ์การฆาตกรรมขึ้น อารมณ์ของหนังกลับหดหู่ลงทันที ซึ่งมันก็ทำให้เรื่องราวนี้ดูมีความเสมือนจริงและน่าติดตาม

เนื้อแท้ของหนัง จึงเป็นเรื่องราวชีวิตครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ สะท้อนและตีแผ่ปัญหาของสถาบันครอบครัวในยุคทุนนิยม ที่ผู้คนต่างเติมเต็มความรักความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วยวัตถุสิ่งของ เหมือนกับตัวละครผู้เป็นพ่อในหนังเรื่องนี้
ที่คิดว่า การย้ายบ้านจะทำให้ครอบครัวมีความสุข โดยลืมคิดไปว่าแท้จริงแล้วความสุขในบ้านเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ด้วยความรัก ความเข้าใจ และความอบอุ่นที่มีให้กันในครอบครัวต่างหาก 

การวิจารณ์โดยใช้แนวคิดรูปแบบนิยม

ภาพยนตร์เรื่องนี้ ผู้กำกับ (คุณโสภณ ศักดาพิสิษฏ์) ได้มีความคิดในเรื่องอาถรรพ์ในหมู่บ้านจัดสรร และได้นำตำนานที่เล่าเกี่ยวกับลัดดาแลนด์ มาประกอบกัน จึงได้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมา โดยเรื่องนี้ไม่ได้อ้างถึงสถานที่จริงแต่อย่างใด เพียงแต่นำเอาตำนานจากสถานที่จริงมาประกอบเท่านั้น 

จุดที่น่าสนใจอีกอย่างของหนังเรื่องนี้คือ การเล่นกับองค์ประกอบด้านภาพ การเล่นกับรูปบนผิวแก้วน้ำ ก็เป็นอีกสิ่งที่กล้องโฟกัสอยู่หลายครั้งเหมือนมีความหมายที่อยากจะบอก ทางด้านเสียง จังหวะในการเล่นเสียงทำได้น่าตระหนกอย่างยิ่ง เสียงตุ้งแช่ก็โครมครามพอที่จะทำให้คนดูสะดุ้งไปตามๆ กัน  

ในเรื่องของฉากการถ่ายทำส่วนใหญ่ของภาพยนตร์เรื่องนี้ ถ่ายทำที่หมู่บ้านจัดสรร แถบจังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดปทุมธานีเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเป็นฉากที่เป็นหมู่บ้านลัดดาแลนด์ ถ่ายทำที่หมู่บ้านจัดสรร ย่านเทพารักษ์ จังหวัดสมุทรปราการ โดยถ่ายทำที่จังหวัดเชียงใหม่จริงๆตามท้องเรื่องนั้น มีไม่กี่ฉาก แปลนบ้านในหนังก็เป็นแบบลักษณะทั่วๆ ไป ทำให้ผู้ชมสามารถจินตนาการได้ว่า มีห้องนอนกี่ห้อง ห้องนอนอยู่ตรงไหน บันไดเลี้ยวขวาจะเจอห้องอะไร ส่วนเรื่องของเสื้อผ้า การแต่งกายก็เข้ากับยุคสมัย ฐานะ และหน้าที่การงานของตัวละครได้เป็นอย่างดี 

ความตื่นเต้นน่ากลัวของหนังเรื่องนี้ มีให้ได้ลุ้นกันอยู่ตลอด อะไรเดินผ่านนิดหน่อยก็เสียงกรีดแหลม อะไรโผล่มานิดเดียวก็โครมครามจนตกใจ มีฉากให้เราต้องเอาใจช่วยให้ตัวละครเอาตัวรอด มีฉากให้เราต้องสมน้ำหน้ากับการกระทำไม่เข้าท่าของตัวละคร และมีฉากหวาดเสียวที่ทำให้ต้องเบือนหน้าหนี 

การถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้คอมพิวเตอร์กราฟิก(ซีจี) ในการถ่ายทำหลายฉาก เช่น ฉากหลังหมู่บ้านลัดดาแลนด์ เพราะหมู่บ้านนี้ที่ใช่ถ่ายทำ ไม่มีภูเขาจริงๆ จึงใช้ซีจีในการทำภูเขาขึ้นมา และฉากป้ายชื่อหมู่บ้านลัดดาแลนด์ ก็มาจากซีจีทั้งหมด นอกจากนี้ ยังใช้เทคนิคลบเลขที่บ้านและป้ายโฆษณาขายบ้านในหมู่บ้านนั้นออกไป 

และที่ขาดไม่ได้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำให้หนังดำเนินเรื่องไปได้อย่างสมบูรณ์เพอร์เฟค นั่นก็คือ นักแสดง ผู้กำกับสามารถเลือกนักแสดงได้ตรงกับคาแรคเตอร์ การได้นักแสดงมากฝีมืออย่าง ป๊อก-ปิยธิดา วรมุสิก ประชันบทบาทกับ ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา ซึ่งคู่นี้เคยเล่นคู่กันมาก่อนในละครทางโทรทัศน์ ทั้งสองคนเข้ากันได้ดีมากๆ และการแสดงที่แต่ละคนมอบให้กับหนัง ก็ได้ทำให้หนังสยองเรื่องนี้มีความเข้มข้นทางอารมณ์ที่เหนือกว่าหนังสยองเรื่องอื่นๆ 

ป๊อก-ปิยธิดาให้การแสดงที่น่าประทับใจกับฉากอารมณ์ทั้งหลายในหนัง เธอถ่ายทอดอารมณ์ความเป็นแม่ที่ต้องแบกรับทั้งปัญหาจากแม่ของเธอเอง และปัญหาที่เกิดขึ้นในครอบครัวได้เยี่ยมยอด ส่วน ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา ก็แสดงได้ดีเยี่ยมสมจริง ในฐานะหัวหน้าครอบครัวผู้ต้องแบกรับความความหวังและบีบคั้นกดดันจนเคร่งเครียด และได้โชว์ความสามารถได้แบบไร้ที่ติ ส่วนนักแสดงหญิงวัยรุ่นที่เป็นตัวละครสำคัญอีกคนของเรื่องอย่าง ปัน ปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์ ซึ่งรับบทเป็น ไม้เบื่อไม้เมาของผู้เป็นพ่อ เธอก็สามารถแสดงออกมาได้ดีกับบทนี้

 
บทความโดย น.ส.อัญชนาพร สุนทรชัย นักศึกษา คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม